“เดอะสยาม” ซังฮี้ โรงแรม+พิพิธภัณฑ์

หัวหน้าทีมซอกแซกไม่ได้นั่งรถจากฝั่งธนบุรีข้ามสะพานกรุงธนบุรี หรือสะพานซังฮี้มาสู่ฝั่งกรุงเทพฯ เป็นเวลาหลายปีแล้ว จึงไม่ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ณ ถนนสายสั้นๆ ที่รถทุกคันจะถูกบังคับให้เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าวัดผาติการาม ไปทางด้านหลังวชิรพยาบาล และไปผ่านวังศุโขทัยในที่สุด

เมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว อาคารที่ยังอยู่ในความทรงจำของคนขับรถผ่านถนนเล็กๆ สายนี้ก็คือ อาคารลักษณะไทยๆ ของภัตตาคาร “บ้านคุณหลวง” ที่รสชาติอาหารอยู่ในเกณฑ์อร่อยธรรมดาๆ แต่ทัศนียภาพรอบๆ ดีมาก จนมักจะเป็นที่นัดพบของคนชอบรับประทานอาหารไป ดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไปอยู่เสมอๆในยุคโน้น

แต่บัดนี้ภัตตาคารที่ว่านี้ไม่อยู่เสียแล้ว กลายเป็นอาคารหลังใหม่ขึ้นมาแทน มีป้ายบอกไว้ที่หน้าประตูทางเข้าว่า “The Siam Hotel” ซึ่งดูจากข้างนอกดูเหมือนจะไม่มีความโดดเด่นอะไรมากนัก

จนกระทั่งเลี้ยวรถเข้าไปก็ยังเฉยๆ หรือแม้แต่เข้าไปจอดรถที่ใต้ถุนตึก ซึ่งมีที่จอดอย่างกว้างขวางแล้วก็ยังเฉยๆอยู่นั่นเอง

ต่อเมื่อเดินขึ้นบันได หรือจะขึ้นลิฟต์ก็ได้เพื่อจะไปที่บริเวณล็อบบี้โรงแรมนั่นแหละ ค่อยรู้สึกว่าโรงแรมนี้ไม่ธรรมดาเลยแฮะ

เพราะการตกแต่งให้ดูเป็นโรงแรมสมัยเก่าย้อนยุค และ “ของเก่า” ต่างๆ รอต้อนรับอย่างมากมาย ระคนกับต้นไม้สีเขียวขจีที่มองเห็นอยู่ในสายตาทั้งระยะใกล้และระยะไกล

หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสไปเยือน โรงแรม “เดอะสยาม” ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ปี 2560 ที่ผ่านมา เพื่อไปร่วมงานแต่งงาน “น้องแนท” ธนวลัย วัชรพล ลูกสาวคนเล็ก ของท่านผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ตลอดเช้าของวันที่ 28 ธันวาคม ได้มีโอกาสอยู่กับความไม่ธรรมดาของโรงแรมนี้ ตั้งแต่ร่วมพิธีมงคลสมรสที่จัดในบริเวณน้ำพุใกล้ล็อบบี้ ไปจนถึงมีโอกาสได้รับประทานอาหารกลางวัน ที่ห้องอาหารเรือนไทย ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มองเห็นสะพานกรุงธนบุรีสวยงามมากอยู่ด้านนอก

ระหว่างเดินไปรับประทานอาหารจะต้องทะลุผ่านช่องทางที่เป็นสะพานเขียวขจีด้วยต้นไม้เข้าสู่ตึกใหญ่ข้างๆที่เป็นอาคารสำหรับห้องพัก แต่ก็ออกแบบเป็นห้องโถงกว้าง มีคล้ายๆสระน้ำในร่มอยู่กลาง ปลูกต้นไม้ต่างๆเอาไว้มากมาย

2 ฟากห้องโถงเต็มไปด้วยของเก่าแก่ เช่น รูปเก่าๆ วารสารหรือหนังสือพิมพ์เก่าๆ รวมไปถึงถ้วยชามรามไหเก่าๆ

เห็นแล้วก็ยังนึกสงสัยว่าเป็นโรงแรมหรือเป็นพิพิธภัณฑ์กันแน่หนอ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมากนัก รู้แต่ว่าเป็นโรงแรมในเครือของตระกูล “สุโกศล” ซึ่งมีโรงแรมดังๆ ที่ผู้คนรู้จักอยู่แล้วหลายๆ  โรงแรม เช่น “เดอะสุโกศล” ศรีอยุธยา, สยามเบย์ชอร์ พัทยา และ สยามเบย์วิว พัทยา เป็นต้น

แต่แล้วโอกาสที่จะได้กลับไปดูโรงแรม “เดอะสยาม” อย่างทะลุปรุโปร่งอีกครั้งก็เกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง เมื่อคนรู้จักสนิทสนมของหัวหน้าทีมเกิดไปสนิทสนมกับเจ้าของโรงแรม จึงมาชวนหัวหน้าทีมซอกแซกและทีมงานไปนั่งคุย นั่งลิ้มรสอาหาร และเดินดูความไม่ธรรมดาของโรงแรมนี้ โดยใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมง (จาก 6 โมงเย็น ถึง 5 ทุ่ม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี่เอง)

มีโอกาสได้พบกับ คุณมาริสา สุโกศล หนุนภักดี รองประธานกรรมการบริหารของกลุ่มโรงแรมในเครือ ซึ่งเป็นพี่สาวคนโตของ คุณกฤษดา สุโกศล แคลปป์ หรือ “น้อย วงพรู” นักร้องดัง ที่ได้รับมอบหมายจากครอบครัวสุโกศลให้มาบริหารจัดการ และควบคู่ดูแลโรงแรม เดอะสยาม ตั้งแต่เริ่มต้น

กฤษดา หรือน้อย วงพรู เล่าว่า “ผมเป็นคนชอบของโบราณ ชอบของเก่า และสะสมของเก่าไว้มาก เป็นนักเล่นของเก่า ที่วงการเขาเรียก เฮียน้อย เมื่อจะมาทำโรงแรมก็อยากจะสะท้อนความคิดและอุปนิสัยของตัวเอง” น้อย วงพรู เปิดเผยความในใจ

“ครอบครัวผมถนัดเรื่องโรงแรม เพราะเราทำโรงแรมประสบความสำเร็จมาหลายแห่งแล้ว… ผมตัดสินใจที่จะนำประสบการณ์ของครอบครัวสุโกศล มาผสมผสานกับสิ่งที่ผมรัก”

“นอกจากแขกของเราจะพอใจในบริการอันยอดเยี่ยมแล้ว เขาควรจะได้รับความพึงใจจากการนอนพักในห้องพักที่บอกเล่าเรื่องเก่า และเดินดูเรื่องราวเก่าๆ ของประเทศไทยจากมุมต่างๆ ของโรงแรม”

เดอะสยามสร้างขึ้นบนเนื้อที่ 8 ไร่ มีห้องพักเพียง 39 ห้องเท่านั้น สร้างเสร็จเปิดบริการตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา

ตัวโรงแรมออกแบบโดยสถาปนิกระดับโลก บิล เบนส์เล ตกแต่งด้วยโทนสีขาวผสมดำแซม ดูสง่างามอย่างคลาสสิก

น้อยพาทีมงานไปชมห้องฟิตเนส ซึ่งมีเวทีมวยไทยและครูสอนมวยไทยด้วย พาดูห้องสปา ห้องฉายภาพยนตร์ สไตล์ย้อนยุค ห้องฟังเพลงย้อนยุค ซึ่งจะมีแผ่นเสียงเพลงย้อนยุคพร้อมเครื่องเล่นย้อนยุคไว้บริการพร้อมสรรพ

รวมทั้งยังไปดูห้อง “สักยันต์” รับสักให้แก่นักท่องเที่ยวที่ชอบสักด้วย และคนดังระดับโลกอย่าง Derrick Rose นักบาสเก็ตบอล NBA ของสหรัฐฯก็เคยมานั่ง (ให้) อาจารย์ไทยของเราสักมาแล้วที่ห้องสักยันต์ห้องนี้

ยังไม่หมด…เขาพาไปเดินดู “ห้องอาหารช้อน” ที่เป็นเรือนไทย 3 เรือนตั้งอยู่ติดกับริมฝั่งเจ้าพระยา แถมขึ้นบันไดไปชั้นบนดูอย่างละเอียดทุกห้องที่ยังเก็บความเป็นบ้านชนบทไทยและตกแต่งแบบบ้านไทยยุคเก่าทุกประการ

แม้แต่เหล้า “แม่น้ำสุพรรณ” รุ่นเก่าก็ยังมีตั้งให้ดูในห้องหนึ่งของเรือนไทยที่ว่านี้

น้อย วงพรู บอกเราว่า โรงแรมเดอะสยามเปิดต้อนรับคนไทยที่จะไปรับประทานอาหารโดยตลอด และหากจะเดินดูพิพิธภัณฑ์ หรือของเก่าต่างๆเ ขาก็ยินดีอย่างยิ่ง

สนนราคาหากจะแพงกว่าร้านอาหารทั่วๆ ไปก็คงเป็นเรื่องธรรมดา เพราะอาหารในโรงแรมชั้นหนึ่งต่างๆ ก็ย่อมแพงกว่าอยู่แล้ว

แต่วิวร้านอาหารบรรยากาศรอบๆ ร้านอาหารและการเดินดูของเก่าเป็นกำไรชีวิต เห็นจะมีก็ที่ “เดอะสยาม” ซังฮี้แห่งเดียวเท่านั้นเอง.

“ซูม”